2.3 การจัดการเรียนการสอน


2.การจัดการเรียนการสอน  กิจกรรมและสื่อการเรียนรู้  กิจกรรมการเรียนการสอน  คือ  กิจกรรมที่ทั้งผู้เรียนเป็นผู้กระทำ และกิจกรรมที่ผู้สอนเป็นผู้กระทำ  มีการใช้สื่อการเรียนการสอนต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้กิจกรรมในการจัดการเรียนการสอน การบรรยาย การสาธิต ผู้เรียนมีการซักถามโต้ตอบ การลงมือปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหาสาระที่กำหนดขึ้น  ครูต้องคำนึงถึงพื้นฐานและประสบการณ์เดิมของผู้เรียน  การกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องสอดคล้องกับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน  ซึ่งอาจมีการนำสื่อทั้งในด้านวัสดุอุปกรณ์ และบุคคล สถานที่ที่อยู่ในชุมชน เข้ามากำหนดเป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม  เพื่อให้การเรียนรู้เชื่อมโยงกับชุมชน ส่งผลต่อการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้เรียนอันเนื่องมาจากการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ได้
              กิจกรรมการเรียนการสอน  ได้แก่ กิจกรรมในลักษณะต่อไปนี้คือ  ศึกษา ทดลอง สำรวจ   ฝึกปฏิบัติ วิเคราะห์ อภิปราย สัมมนา ระดมความคิด ฯลฯ ตัวอย่างกิจกรรม ศึกษาได้แก่ (กรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ , 2539: 9)
                   - ฟังคำอธิบายจากครู
                   - ค้นคว้าจากห้องสมุดของโรงเรียน
                   - ค้นคว้าจากแหล่งวิทยาการอื่นๆ
                   - เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในท้องถิ่นมาบรรยาย
                   - ออกไปสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เกี่ยวข้องในท้องถิ่น
                   - ออกไปสำรวจดูสภาพจริงในพื้นที่
                   - สังเกตสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
                   - ออกไปทัศน์ศึกษา
                   - รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ
                   - นำหรือพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้
ฯลฯ
              นอกจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแล้ว  ครูยังสามารถจัดทำสื่อการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ที่กำหนดไว้โดยการจัดสื่อต่างๆ  เพื่อใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนได้ดังนี้ (กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ , 2539: 17-18)
              1. หนังสือเรียน เป็นหนังสือที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้ใช้สำหรับการเรียน มีสาระตรงตามที่ระบุไว้ในหลักสูตรอย่างถูกต้อง อาจมีลักษณะเป็นเล่ม เป็นแผ่นหรือเป็นชุดก็ได้
              2. คู่มือครู แผนการสอนแนวการสอนหรือเอกสารอื่นๆ ที่จัดทำขึ้นเพื่อช่วยครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ละรายวิชาให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของหลักสูตร
              3. หนังสือเสริมประสบการณ์  เป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นโดยคำนึงถึงประโยชน์ในด้านการศึกษาหาความรู้ของตนเอง  ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ความซาบซึ้งในคุณค่าของภาษา  การเสริมสร้างทักษะและนิสัยรักการอ่าน การเพิ่มพูนความรู้  ความเข้าใจในสิ่งที่เรียนรู้ตามหลักสูตรให้กว้างขวางขึ้น หนังสือประเภทนี้โรงเรียนควรจัดหาไว้บริการครูและนักเรียนในโรงเรียน  หนังสือเสริมประสบการณ์จำแนกออกเป็น 4  ประเภท  คือ
                   3.หนังสืออ่านนอกเวลา เป็นหนังสือที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้ใช้ในการเรียนวิชาใดวิชาหนึ่งตามหลักสูตรนอกเหนือจากหนังสือเรียนสำหรับให้นักเรียนอ่านนอกเวลาเรียน โดยถือว่าเป็นกิจกรรรมการเรียนเกี่ยวกับหนังสือนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนตามหลักสูตร
                   3.หนังสืออ่านเพิ่มเติม เป็นหนังสือที่มีสาระ สำหรับให้นักเรียนอ่านเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง ตามความเหมาะสมกับวัยและความสามารถในการอ่านของแต่ละบุคคล หนังสือประเภทนี้เคยเรียกว่าหนังสืออ่านประกอบ
                   3.หนังสืออุเทศ เป็นหนังสือใช้ค้นคว้าสำหรับอ้างอิงเกี่ยวกับการเรียนโดยมีการเรียบเรียงเชิงวิชาการ
                   3.หนังสือส่งเสริมการอ่าน เป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เน้นไปในทางส่งเสริมให้ผู้อ่านเกิดทักษะในการอ่าน และมีนิสัยรักการอ่านมากยิ่งขึ้น อาจเป็นหนังสือสารคดี  นวนิยาย นิทาน ฯลฯ ที่มีลักษณะไม่ขัดต่อวัฒนธรรม ประเพณีและศีลธรรมอันดีงาม ให้ความรู้ มีคติและสารประโยชน์
              4. แบบฝึกหัด เป็นสื่อการเรียนสำหรับให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติ เพื่อช่วยเสริมให้เกิดทักษะ และความแตกฉานในบทเรียน
              5. สื่อการเรียนการสอนอื่นๆ เช่น สื่อประสม วีดีทัศน์ แถบบันทึกเสียง ภาพพลิก แผ่นภาพ เป็นต้น
              สื่อการเรียนการสอนดังกล่าวข้างต้น  โรงเรียนสามารถเลือกใช้  ปรับปรุง หรือจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามความเหมาะสม